• 8 ตุลาคม 2018 at 17:19
  • 588
  • 0

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ยามที่มีอาการรู้สึกคัดจมูก น้ำมูกไหลทีไร หลายคนคงจะนึกถึง “ยาแก้แพ้” ก่อนเป็นลำดับแรก เพราะเชื่อว่าจะคลายอาการดังกล่าวได้ แต่หลายคนก็ยังไม่ทราบถึงผลเสียและอันตรายจากยาแก้แพ้นี้ ถ้าใช้อย่างไม่ถูกวิธี ฉะนั้น มาทำความรู้จักกับ ‘ยาแก้แพ้’ กันก่อนดีกว่า

อะไรคือ “ยาแก้แพ้”

ยาแก้แพ้ คือ ยาที่ช่วยรักษาการแพ้หลายประเภท ตั้งแต่อาการแพ้อากาศเล็กๆ น้อยๆ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล ไปจนถึงรักษาเยื่อจมูกอักเสบจากอาการภูมิแพ้ รวมไปถึงแก้อาการแพ้ต่างๆ เช่น อาการแพ้จากอาหาร และสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น อาการเมารถ เมาเรือ และอื่นๆ

ยาแก้แพ้ มีกี่ประเภท

1.ยาแก้แพ้ที่ทำให้ง่วง (รุ่นเดิม)

ยารุ่นนี้ใช้รักษาอาการเยื่อจมูกอักเสบเนื่องจากภูมิแพ้ ที่มีอาการคัน จาม น้ำมูกไหล ผื่นลมพิษ ผื่นภูมิแพ้ ผิวหนัง อาการคันผื่นขึ้นเนื่องจากแมลงกัดต่อย สัมผัสพืชพิษ หรือ สัมผัสสารเคมีบางชนิด และยังบรรเทาอาการเมารถ และเมาเรือได้ด้วย

ถึงแม้ว่ายารุ่นนี้จะกินแล้วง่วง แต่ก็สามารถรักษาอาการเมารถ เมาเรือได้ดีกว่า ออกฤทธิ์ได้เร็วกว่าแบบที่ทานแล้วไม่ง่วง แต่ก็หมดฤทธิ์ได้เร็วกว่าเช่นกัน เนื่องจากยาแก้แพ้ชนิดนี้สามารถดูดซึมผ่านสมองได้มากกว่านั่นเอง

แต่อย่างไรก็ตาม การกินยาแกแพ้ชนิดนี้ก็มีข้อจำกัด ดังนี้

-ไม่ควรใช้ยาติดต่อกันนานๆ
-ไม่ควรใช้ในผู้ที่ทำงานที่เกี่ยวกับการควบคุมเครื่องจักรหรือขับรถ
-ห้ามใช้ร่วมกับยากล่อมประสาท ยานอนหลับ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
-หญิงมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ทุกครั้ง
-ระวังการใช้ในเด็กเล็ก โดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 6 ขวบ เพราะอาจจทำให้หยุดหายใจขณะหลับได้
-ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้งานทุกครั้ง

2.ยาแก้แพ้ที่ไม่ทำให้ง่วง (รุ่นใหม่)

ยาประเภทนี้สามารถใช้รักษาอาการต่างๆ ได้คล้ายยากลุ่มดั้งเดิม ให้ผลดีกว่าในการลดผื่นลมพิษแบบเฉียบพลัน และลดอาการคันได้เร็วกว่ายาอื่นในกลุ่มเดียวกัน แต่อาจจะบรรเทาอาการน้ำมูกไหล อาการเมารถ เมาเรือได้ไม่เท่ากลุ่มดั้งเดิม

แม้ว่าประสิทธิภาพในการแก้อาการเมารถ เมาเรือ อาจจะไม่เท่ารุ่นเดิม แต่ยารุ่นนี้ก็สามารถรักษาผื่นแดง ผื่นลมพิษบางชนิด และแก้อาการคันผิวหนังได้ดีกว่า และแม้ว่าจะออกฤทธิ์ช้ากว่าแบบแรก แต่ก็ออกฤทธิ์ได้ยาวนานกว่า 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดอาการแพ้ สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรก คือ สิ่งใดที่ทำให้แพ้ และต้องหลีกเลี่ยงเมื่อต้องเจอตัวการที่ทำให้แพ้ เลือกใช้ยาแก้แพ้ให้ถูกต้อง หมั่นออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เมื่อต้องการที่จะใช้ยาจะเป็นการดีที่สุด

 

 

 

#สำนักงานบัญชี,#สำนักงานสอบบัญชี,๒ทำบัญชี,#สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน