จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
ชื่อว่าสาวๆ ที่รักสุขภาพหลายคนคงมี “มะเขือเทศ” เป็นหนึ่งในตัวช่วยรักษาสุขภาพเป็นแน่แท้ เพราะผักชนิดนี้จะช่วยในเรื่องของผิวพรรณให้ดูดีมีชีวิตชีวาและสวยใสขึ้นมาได้ แม้ว่าอีกปัจจัยหนึ่งนั้นจะบอกว่าการกินแบบสดๆ จะมีคุณประโยชน์ดีกว่าดื่มเป็นน้ำ เพราะว่ามีรสชาติเค็ม แล้วจะกินแบบไหนถึงจะดีกว่ากัน เรามาหาคำตอบโดยพร้อมกันดีกว่า
ประโยชน์ของมะเขือเทศ
1.วิตามินซี ที่ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า และให้ผิวดูเต่งตึง ป้องกันอันตรายจากรังสียูวีจากแสงแดด และช่วยให้เซลล์ผิวหนังได้ปรับสภาพคอลาเจนใต้ผิวหนังให้แข็งแรง ทำให้ผิวชุ่มชื่น เรียบเนียน สวยงาม
2.ไลโคปีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความชรา ต้านความเสื่อมของร่างกาย และช่วยการไหลเวียนของร่างกาย ขณะเดียวกันยังมีเบตาแคโรทีน วิตามิน และสารอาหารอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมายเช่นกัน
ความแตกต่างของ มะเขือเทศสด กับ น้ำมะเขือเทศ
มะเขือเทศสดนั้นควรจะกินแบบสดเลย เนื่องจากวิตามินซีเป็นสารอาหารที่ยิ่งโดนความร้อน หรือถูกแปรรูปมากๆ เข้าก็จะค่อยๆ ลดหายไปเรื่อยๆ ในขณะที่น้ำมะเขือเทศจะมีการผ่านความร้อนหรือปรุงให้สุก เป็นกระบวนการที่ทำแบบบรรจุกล่อง ทำให้มีสารไลโคปีนมากกว่าแบบสด
รับประทานทั้งสองแบบได้หรือไม่
ถามว่าสามารถรับประทานสองแบบได้หรือไม่ ตอบได้เลยว่าได้ จะเป็นแบบรับประทานสดๆ หรือนำไปปรุงอาหารในมื้อต่างๆ ก็ย่อมทำได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการรับประทานมะเขือเทศมากเกินไปก็อาจจะทำให้ได้สารวิตามินซีมากเกินพอดี ทำให้สิ้นเปลือง เนื่องจากวิตามินซีนั้นจะถูกขับออกทางปัสสาวะอยู่ดี แถมอาจจะทำให้เกิดการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หรือเป็นโรคนิ่วในไตได้ ฉะนั้น ควรรับประทานมะเขือเทศในปริมาณราว 60-90 มิลลิกรัมต่อวัน (ประมาณเท่ากับมะเขือเทศ 3-4 ลูก หรือน้ำมะเขือเทศกล่อง 2 แก้ว) น่าจะดีกว่า
อย่างไรก็ตาม มะเขือเทศก็เหมาะกับคุณผู้ชายและครอบครัวด้วยเช่นกัน เพราะวิตามินซีจากมะเขือเทศสดนั้นช่วยฟื้นฟูจากอาการหวัดได้เร็วขึ้น บำรุงฟันและเหงือก โรคลักปิดลักเปิด แถมไลโคปีนจากมะเขือเทศปรุงสุกยังช่วยลดการเกิดโรคมะเร็งอีกด้วย
#eosgear,#ถุงมือกันบาด,#อะไหล่ victorinox, #victorinox มือสอง,#มีดเดินป่า ตราจรเข้,#Ralph Martindale,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดภาวะวิกฤต